อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึง
![]() จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึงผานกแอ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นมีดอกกุหลาบป่าขึ้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งบานสะพรั่งในเดือนมีนาคม-เมษายนผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึงนอกจากนี้ยังมี ผาหมากดูก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้นการเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เลย แล้วลงที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากจุดนี้จะมีรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติ ภูกระดึงหรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมแพแล้วลงที่ตลาดชุมแพแล้วต่อรถสายชุมแพ-ผานกเค้า ไปลงที่ผานกเค้า ซึ่งจะมีรถสองแถวไปที่ทำการอุทยานฯ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าสู่ยอดภูกระดึงระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถส่วนตัวจากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข 201(เลย-ภูกระดึง) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 75 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 อีก 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 10 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร.0 4287 1333 หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760www.dnp.go.th
หมายเหตุ : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุกปี เพื่อให้สภาพธรรมชาติฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
![]()
มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือหัวเรือสำเภา ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนประกอบด้วยเขาหินทรายและหินแกรนิตสลับกันสัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีและเป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในประเทศ จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งซึ่งภาษาพื้นบ้านเรียกว่า “ แม่คะนึ้ง ”อุทยานฯมีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ช่วงเดือนที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวคือ เดือน ตุลาคม-มีนาคมสถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ จุดชมทิวทัศน์เดโช เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่อากาศดีนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆของเมืองเลยได้ ผาโหล่นน้อย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากจากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชันและแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มอยู่ทั่วบริเวณ น้ำตกห้วยไผ่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันมีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำเป็นประปาในอำเภอภูเรือด้วย ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงสุดในอุทยานฯอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตรบริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้าขึ้นแซมสลับกับป่าสน มีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก จากจุดนี้ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทย – ลาวได้ นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน
หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ทุ่งหินเหล็กไฟ ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียกตั้งท่ามกลางทุ่งหญ้า ช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆขึ้นอยู่ทั่วไปน่าชมมาก
สถานที่พัก อุทยานฯ มีบริการบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยวติดต่อขอรายละเอียดและสำรองที่พักล่าวงหน้าได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร. 042-807624, 042-801716 ,042-807607หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 02-5620760 หรือ www.dnp.go.th
การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 สาย เลย- ภูเรือ ระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 49-50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร รถยนต์ทั่วไปสามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้าอีก 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ
อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว
![]()
อยู่ในเขตอำเภอนาแห้ว มีพื้นที่ทั้งหมด 73,225 ไร่ ภูมิประเทศประกอบด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาวจากเหนือจรดใต้ สภาพป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้งที่มีไม้ผลัดใบผสม ตามพื้นที่สูงเป็นป่าดิบเขาเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างแผ่นดินไทย-ลาว สัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ เลียงผา หมาใน นกเหยี่ยว เต่าปูลูสถานที่น่าสนใจภายในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกคิ้ง อยู่ริมเส้นทางหลวงสายแสงภาเหล่าก่อ อยู่ในลำน้ำแพร่ ตัวน้ำตกมีลักษณะเป็นแก่งหินลดหลั่นลงมา ที่จุดนี้ทางราชการได้ก่อสร้างเรือนประทับถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เสด็จเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2534
น้ำตกช้างตก อยู่เหนือน้ำตกคิ้งขึ้นไป 500 เมตร อยู่ในลำน้ำแพร่ แต่มีความลาดชันมากกว่า
น้ำตกวังตาด อยู่เหนือน้ำตกช้างตก 1.5 กิโลเมตร อยู่ในลำน้ำแพร่เช่นกัน น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว) อยู่ในลำน้ำเหือง มีความลดหลั่นลงมา 3 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี บริเวณรอบ ๆ มีความร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อน และเป็นน้ำตกที่แบ่งเขตพรมแดนระหว่างไทย-ลาว น้ำตกผาค้อ อยู่ในลำน้ำเหือง เป็นลำน้ำที่เป็นเส้นแบ่งเขตพรมแดนระหว่างไทย-ลาว บริเวณโดยรอบมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น อากาศร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน หินสี่ทิศ อยู่บนเทือกเขาภูตีนสวนทราย ทางด้านทิศใต้มีหินอยู่ 4 ก้อน โผล่ขึ้นกลางป่าดงดิบ ชาวบ้านขึ้นไปสักการะทุก ๆ 3 ปี ชาวบ้านเรียกว่า 2 ปีหาม 3 ปีครอบ หมายถึง ขึ้นไปทำบุญ 1 ครั้ง แล้วเว้นไปอีก 2 ปี ขึ้นไปสักการะอีก เรียกว่า บุญภูใหญ่ หรือบุญสวนเมี่ยง จะทำราวปลายเดือน 3 หรือ เดือน 4 ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน หินก่วยหล่อ อยู่บนภูตีนสวนทราย เป็นหินทรายรูปร่างคล้ายดอกเห็ดตูมโผล่ขึ้นมากลางป่าดงดิบ จุดชมวิว เนิน 1408 บนตีนภูสวนทราย เป็นจุดที่สูงที่สุดและเป็นจุดใจกลางของอุทยานฯ หากมองลงไปทางทิศตะวันออกและทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเห็นบ้านบ่อเหมืองน้อย บ้านแสงภา อำเภอนาแห้วได้ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงามอีกด้วย จุดชมวิว เนิน 1205 เป็นจุดชมวิวในระยะใกล้ สามารถมองเห็นบ้านห้วยน้ำผักอยู่ด้านล่าง และเห็นวิวของภูสวยดาว ภูเวียงประเทศลาวได้ นอกจากนั้นทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้สำหรับนักท่องเที่ยว คือ จากที่ทำการอุทยานฯ –ภูสวนทราย ระยะทาง 2 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตรตามลำดับ แต่ละเส้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทาง สถานที่พัก ทางอุทยานฯ มีบริการที่พักไว้สำหรับนักท่องเที่ยว พักได้ 10–15 คน ราคา 2,000 บาท และพักได้ 30–40 คน ราคา 3,000 บาท เต็นท์ให้เช่า นอนได้ 3 คน ราคา 250 บาท ในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่ คนละ 30 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการอุทยานฯ โทร. 0 4281 9340-1 หรือที่สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขตบางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2561 2920-1 ต่อ 724–725, 0 2579 5734, 0 2579 7223 หรือ www.dnp.go.th การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข 203 ระยะทาง 68 กิโลเมตร ถึงทางแยกบ้านโคกงามให้เลี้ยวขวาตามเส้นทางหมายเลข 2031 ระยะทาง 12 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายให้เลี้ยวขวาตามเส้นทางหมายเลข 2113 ไปอีก 32 กิโลเมตร จนถึงอำเภอนาแห้ว จากอำเภอนาแห้วเดินทางต่อไปอีก 4 กิโลเมตร ถึงบ้านเหมือนแพร่เลี้ยวซ้ายตามเส้นทาง 1268 ผ่านตำบลแสงภา และเลี้ยวขวาตามทางแยกบนทางหลวง 1268 อีกครั้ง ตรงหลักกิโลเมตรที่ 0ช อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานฯ
แก่งคุดคู้
![]()
สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ถ้าได้มาเที่ยวที่อำเภอเชียงคานแล้วที่จะไม่ไปไม่ได้ก็เห็นจะเป็นแก่งคุดคู้นี่แหละ เพราะมีความสวยงามเหมาะสำหรับถ่ายภาพวิวสวยๆแก่งคุดคู้อยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร แก่งคุดคู้เกิดจากการทอดตัวของแนวก้อนหินขนาดน้อยใหญ่ลงไปในแม่น้ำโขง ซึ่งช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่น้ำแห้ง ทำให้มองเห็นโขดหินและเกาะแก่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังมีหาดทรายที่สวยงาม และยังมองเห็นฝั่งลาวได้อย่างชัดเจนอีกด้วย หากมีนักท่องเที่ยวต้องการที่จะใช้บริการเรือก็มีเรือไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ หน้าท่องเที่ยวของแก่งคุดคู้ก็จะเป็นวันสงกรานต์ จะมีผู้คนจากทั้งในจังหวัดเลย และ ต่างจังหวัดมาเที่ยวยังแก่งคุดคู้เป็นจำนวนมาก แก่งคุดคู้และอำเภอเชียงคาน และยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้ให้บริการ นักท่องเที่ยวอีกด้วย
|
วัดพระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย

ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กม. หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กม. ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกม.ที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กม. จากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กม. พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงสัณฐาน คล้ายพระธาตุพนม มีงานนมัสการใหญ่โตทุกปีในช่วงเดือน 6 มีประชาชนเคารพนับถือมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย
สะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองไทย-ลาว

นักท่องเที่ยวสามารถข้ามสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว ไปเที่ยว สปป.ลาว ได้ที่ด่านพรมแดนบ้านนากระเช็ง ด่านศุลกากรท่าลี่ โดยคนไทยที่ข้ามไปเที่ยวเฉพาะร้านค้าชายแดนของลาวที่อยู่บริเวณสะพาน ไม่ต้องทำใบผ่านแดน
กรณีที่ต้องการทำบัตรผ่านแดน สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ 3 วัน 2 คืน ใช้เอกสารหลักฐานคือ บัตรประจำตัวประชาชน กรณีใช้พาสปอร์ต อยู่ได้ 30 วัน กรณีนำรถยนต์เข้าและการทำธุรกิจ ใช้เอกสารและดำเนินการเหมือนด่านพรมแดนทั่วไป และควรสอบถามการนำสิ่งของที่ถือว่าผิดกฎหมายไปนอกพรมแดนด้วย ด่านพรมแดนบ้านนากระเช็งเปิดเวลา 8.00-18.00 น.
พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน
อยู่ภายในวัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นสถานที่จัดนิทรรศการเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของประเพณีผีตาโขน ที่สืบต่อกันมาช้านาน ผีตาโขนเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวง ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นที่รวมเอางานบุญพระเวส และงานบุญบั้งไฟ มารวมให้เป็นงานบุญเดียวกันโดยงานบุญพระเวสมีวัตถุประสงค์จัดเพื่อให้ฟังเทศน์มหาชาติ ส่วนงานบุญบั้งไฟนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อถวาย บูชาเทวาอารักษ์รักเมือง ขอให้ฝนตกและผีตาโขนจะเป็นผู้ออกมาสร้างสีสันและความครื้นเครงในขบวนแห่ของชาวอำเภอด่านซ้าย มีการจัดขึ้นทุกๆ ปี จนมีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วโลก
งานบุญพระเวส เป็นงานบุญตามประเพณีท้องถิ่นเป็นหนึ่งในฮีตสิบสองของชาวอีสาน จะจัดในระหว่างเดือนเจ็ดเดือนแปด แต่การกำหนดวันไม่แน่นอน โดยมากจะเป็นหลังงานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ส่วนใหญ่จะตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์
ปล.บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นงานส่งอจารย์ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น